จีนเดินหน้าปราบ ‘สื่อลามก-ผิดกฎหมาย’ เข้มงวด

สำนักงานปราบปรามสื่อลามกอนาจารและสิ่งพิมพ์ผิดกฎหมายแห่งชาติจีน

รายงานว่าจีนเดินหน้าปราบปรามผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมที่มีเนื้อหาลามกอนาจารหรือผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด รายงานระบุว่าหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของจีนดำเนินคดีความเกี่ยวกับการผลิตและจัดจำหน่ายสิ่งผิดกฎหมายประเภทนี้มากกว่า 13,000 คดี และลงโทษบุคคลมากกว่า 4,000 คนในปี 2022 รวมถึงยึดสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีเนื้อหาผิดกฎหมายกว่า 18 ล้านฉบับ

เด็ก-สื่อลามก

ทั้งนี้ สำนักงานฯ ระบุว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการยับยั้งการเผยแพร่ข้อมูลผิดกฎหมายทางออนไลน์ โดยมุ่งเน้นที่เนื้อหาบนเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และสื่อออนไลน์อื่นๆ ซึ่งมีเป้าหมายอยู่ที่เด็ก เพื่อปกป้องพวกเขาจากการเสพเนื้อหาอันตราย

อ่านข่าวเพิ่มเติม : จับตา ‘จีน VIP’ ทะลักไทย แห่ทำเด็กหลอดแก้ว หวังได้อาตี๋สืบตระกูล

จับตา ‘จีน VIP’ ทะลักไทย แห่ทำเด็กหลอดแก้ว หวังได้อาตี๋สืบตระกูล

จับตา ‘จีน VIP’ ทะลักไทย แห่ทำเด็กหลอดแก้ว หวังได้อาตี๋สืบตระกูล

เด็กหลอดแก้ว บริการด้านการแพทย์ที่ชาวจีน เดินทางมาใช้บริการในไทยจำนวนมาก ล่าสุดมีการแชร์ข้อมูลบนโซเชียลจีน ระบุถึงบริการพิเศษ 7 เรื่อง โดยหนึ่งในนั้นมีการให้บริการเด็กหลอดแก้ว สำหรับคู่รักชาวจีน กรณีนี้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้กำชับคลินิกและโรงพยาบาลทั้ง 104 แห่ง ที่ได้ใบอนุญาต เพื่อไม่ให้เกิดการอุ้มบุญ หรือนำเด็กหลอดแก้ว ไปซื้อขายอวัยวะ ของขบวนการ “อะไหล่มนุษย์”

“ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ” รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ให้ข้อมูลกับ “ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์” ถึงการเข้ามาทำเด็กหลอดแก้วในไทยของชาวจีนว่า มีสามีภรรยาชาวจีนมาทำเด็กหลอดแก้วที่ไทยจำนวนมาก โดยจะต้องมีการผสมกันระหว่างน้ำเชื้อฝ่ายชายและไข่ของฝ่ายหญิง แล้วแพทย์ทำการฝังตัวอ่อนไปในโพรงมดลูก ที่ช่วยทำให้เกิดการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ โดยแพทย์ที่ทำต้องมีการตรวจสอบว่าชาวจีนที่มา เป็นสามีภรรยากันจริงหรือไม่

เด็ก

“ตามกฎหมายไทยยังไม่มีข้อห้ามในการที่ชาวจีนเดินทางมาใช้บริการ แต่มีข้อห้ามบางอย่างที่ระบุไว้ตามกฎหมาย โดยผู้อื่นไม่สามารถตั้งครรภ์แทนได้ และผู้ที่ทำไม่สามารถระบุเพศของเด็กที่เกิดจากเทคโนโลยีนี้ได้ หากแพทย์มีการกระทำผิดมีโทษทางจรรยาบรรณ ส่วนราคาการให้บริการ ในสถานพยาบาลเอกชนอยู่ที่ 3 – 5 แสนบาท ถ้าเป็นโรงพยาบาลรัฐ อยู่ที่คอร์สละ 1 แสนบาท”

ประเด็นที่มีการระบุในโลกโซเชียลถึงการทำเด็กหลอดแก้ว แบบกลุ่มวีไอพี ทางหน่วยงานมีการจับตากรณีที่มีการตั้งครรภ์แทนเป็นพิเศษ โดยจะมีคณะกรรมการคุ้มครองเด็ก ที่เกิดโดยเทคโนโลยีเด็กหลอดแก้ว ดังนั้นการพิจารณาในการตั้งครรภ์แทนในแต่ละราย มีขั้นตอนการพิจารณาค่อนข้างละเอียด เชื่อมั่นได้ว่ากลุ่มชาวจีน ที่อ้างว่าเป็นกลุ่มวีไอพี ที่จะมาทำเด็กหลอดแก้ว โดยให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่สามีภรรยา มาตั้งครรภ์แทน จะเป็นเรื่องที่ยาก

กรณีเด็กที่มีความผิดปกติด้านร่างกาย จากการทำเด็กหลอดแก้ว มีข้อกฎหมายกำหนดให้สามีภรรยาต้องรับผิดชอบในตัวเด็ก ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบ จนทำให้เป็นภาระกับสังคมไทยได้

ขณะนี้มีคลินิกและโรงพยาบาล ที่ผ่านการรับรองให้ดำเนินการทำเด็กหลอดแก้วได้ทั่วประเทศ 104 แห่ง โดยมีกฎข้อบังคับให้มีการรายงานทุก 6 เดือน หากมีการไปทำในสถานบริการที่ไม่ได้รับอนุญาต มีโทษความผิดทางกฎหมาย

ที่ผ่านมาเคยมีบางกรณีที่ชาวต่างชาติ มาใช้ไทยเป็นฐานผลิตเด็กหลอดแก้ว เพื่อนำอวัยวะไปขายหรือสำรองไว้ใช้ทดแทนเป็นการส่วนตัว โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ที่เรียกว่า “อะไหล่มนุษย์” เพราะเด็กที่เกิดมามีเซลล์ใกล้เคียง หากเลือดขาดหรือไตเสีย สามารถนำอวัยวะของเด็กทดแทนได้ บางรายมีการว่าจ้างหญิงไทยตั้งครรภ์แทน แล้วจ้างให้เลี้ยงต่อไปจนอายุครบ 8 ขวบ ถึงจะนำเด็กกลับไปยังเป็นประเทศของตน

“ในตลาดมืดไต 1 ข้างมีมูลค่า 3 – 5 ล้านบาท จึงมีขบวนการต่างชาติ ที่ค้าอวัยวะ และใช้ไทยเป็นฐานการผลิตคนที่เป็นอะไหล่มนุษย์ ซึ่งการลงโทษผู้ที่กระทำผิดในขบวนการนี้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท โดยความผิดจะรวมถึงผู้ที่มีส่วนรู้เห็นด้วย ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องพยายามกวดขัน ไม่ให้เกิดขบวนการเหล่านี้ขึ้นในไทย แต่ถ้าประชาชนพบเบาะแส สามารถโทรฯ แจ้งมาที่สายด่วน 1426”

“พล.อ.ต นพ.อิทธพร คณะเจริญ” เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า การให้บริการทางการแพทย์ เด็กหลอดแก้วที่ผ่านมาแพทย์ที่ทำต้องมีความรู้ และใช้เครื่องมือระดับสูง แต่สิ่งที่เป็นห่วงกรณีชาวจีนเข้ามาทำจำนวนมากคือ อาจมีสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน และทำกับบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต ขณะเดียวกันแพทย์ต้องมีการตรวจสอบเอกสารชาวจีนอย่างละเอียด ให้สอดคล้องกับข้อกฎหมาย

หากมีบุคลากรทางการแพทย์เข้าข่ายการกระทำผิด จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน พิจารณาการลงโทษเป็นรายกรณี โดยต้องทำงานร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จึงอยากเตือนให้แพทย์ใช้ความระมัดระวัง เพราะบางกรณีอาจมีการทำเป็นขบวนการ โดยนำเอกสารปลอมมายืนยันกับแพทย์ได้.

ติดตามข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่ : “อุจจาระตกค้างในท้อง” ปัญหาที่ทำเด็กร้องตลอดเวลา

“อุจจาระตกค้างในท้อง” ปัญหาที่ทำเด็กร้องตลอดเวลา

  • ปัญหาอุจจาระตกค้างในเด็ก อาจเกิดจากการเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด อาหารจึงไม่ย่อย

กินอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ ทำให้อุจจาระแข็ง ขับถ่ายไม่ออก มีปัญหาลำไส้ มีพยาธิ หรือเด็กที่ไม่ชอบถ่ายอุจจาระในตอนเช้า หรือชอบกลั้นอุจจาระ

  • ควรให้เด็กทานผัก ผลไม้ เพื่อเพิ่มกากใย กินสารเหลวและน้ำมากๆ หรือโยเกิร์ต นมเปรี้ยว ให้ได้จุลินทรีย์สุขภาพ หลังรับประทานอาหารให้เด็กขยับร่างกายเล็กน้อย เพื่อให้ลำไส้ได้บีบตัว และไม่ควรกลั้นอุจจาระ
  • ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการขับถ่ายเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการขับถ่ายจะส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย หากลูกมีอาการ ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูกเรื้อรัง ถ่ายมีเลือดปนในอุจจาระ ร้องงอแง อาเจียน นอนไม่หลับ อย่าปล่อยไว้ หรือซื้อยามาให้เด็กทานเอง ควรมาพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษา

 

เรื่องการขับถ่ายของเด็กๆ เป็นปัญหาอันดับต้นๆ ที่คุณพ่อคุณแม่มักจะพบอยู่ตลอด โดยเฉพาะเด็ก 2 ขวบปีแรก ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องผูก ถ่ายเหลว ถ่ายแข็ง ในเด็กบางคนอาจเป็นแบบไม่ทราบสาเหตุ ตรวจไม่พบโรค อาการที่น่าเป็นห่วงอย่างหนึ่งคือ อุจจาระตกค้าง หรืออุจจาระค้างท้อง