เปิดภาพ “สกายวอล์คเขาฉกรรจ์” แลนด์มาร์กใหม่คู่ จ.สระแก้ว

เปิดภาพสามมิติของสกายวอล์คเขาฉกรรจ์ ที่เป็นรูปเรือสำเภาขนาดใหญ่ ยาวกว่า 63 เมตร ที่กำลังจะเป็นแลนด์มาร์กใหม่คู่จังหวัดสระแก้ว

เฟซบุ๊กเพจ “เอกอนันต์ ผกก.สภ.สระแก้ว” เผยภาพสามมิติของสกายวอล์คเขาฉกรรจ์ พร้อมลงรายละเอียดว่า

ข่าวออกแบบล่าสุดภาพ 3D SKY WALK เขาฉกรรจ์ รูปร่างเป็นเรือสำเภาขนาดใหญ่ ขนาดความยาว ๖๓ เมตร กว้าง ๑๒ เมตร มีเสากระโดงเรือ อยู่หัวและท้ายเรือ ตั้งเด่นสวยงาม อยู่ระหว่างเขาฉกรรจ์ลูกที่ ๒ และ ลูกที่ ๓ เป็นการออกแบบโดยช่างที่มีประสบการณ์ เพื่อใช้ประกอบในการเสนอโครงการ

จากภาพการเดินสำรวจพื้นที่ ซึ่งมีท้ังสมาชิกเทศบาลเขาฉกรรจ์,หัวหน้าสวนรุกขชาติเจ้าของพื้นที่,ช่างออกแบบที่เคยออกแบบที่อื่นมาแล้ว และนายช่างเทศบาลฯ แสดงให้เห็นได้ว่า ทุกฝ่ายร่วมมือกันและมีความตั้งใจทำจริง

ทุกคนมีความตั้งใจอยากให้เขาฉกรรจ์ มีการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ให้เกิดความเจริญ ทั้งด้านเศรษฐกิจการค้า และทุกคนเชื่อว่าแนวคิดดังกล่าว เป็นประโยชน์กับ คนเขาฉกรรจ์ และคนสระแก้ว ท้ังจังหวัด คงไม่มีหน่วยงานไหน หรือ ใครที่จะไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน โดยยืนยันว่าจะเร่งเดินหน้าให้เกิดความสำเร็จคร้ังใหญ่นี้ให้ได้อย่างแน่นอน..

เขาฉกรรจ์ ตั้งอยู่ริมถนนสาย 317 ลักษณะเป็นเขา 3 ลูกเรียงกัน เขาลูกที่ใหญ่ที่สุดตรงกลางคือเขาฉกรรจ์ ภูเขามิ่งอยู่ด้านซ้าย และเขาฝาละมีอยู่ด้านขวา เขาทั้ง 3 ลูกนี้จัดเป็น “สวนรุกขชาติเขาฉกรรจ์” ซึ่งเป็นที่อยู่ของลิงป่าและฝูงค้างคาวจำนวนมากที่จะบินออกมาในตอนเย็นเป็นสายยาว ส่วนบริเวณเชิงเขาเป็นที่ตั้งของวัดถ้ำเขาฉกรรจ์ สามารถจะกราบไหว้พระที่บริเวณวัดกันก่อนได้

นอกจากนี้เขาฉกรรจ์ยังมีถ้ำเล็กถ้าน้อยมากถึง 72 ถ้ำ ซึ่งสามารถเข้าชมได้บางแห่ง เช่น ถ้ำหนุมาน ถ้ำงู ถ้ำมืด ถ้ำแก้วพลายชุมพล เป็นต้น ส่วนถ้ำยอดนิยมที่สุดคือ “ถ้ำทะลุ” ที่เราสามารถปีนบันไดจากตีนเขาขึ้นไปชมทิวทัศน์ด้านบนของถ้ำ

ถ้ำทะลุ นอกจากจะมีพระพุทธรูปให้สักการะแล้ว ยังมีช่องทะลุขนาดใหญ่สมชื่อที่สามารถชมทิวทัศน์บริเวณรอบๆ ได้อย่างสวยงามมากทีเดียว แต่บันไดช่วงท้ายก็ค่อนข้างชันมากเช่นกัน ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินขึ้น-ลง ข่าวออกแบบแนะนำ>>> “ลูกค้าอินเตอร์” ปักหมุด ‘ชลบุรี-ระยอง’

“ลูกค้าอินเตอร์” ปักหมุด ‘ชลบุรี-ระยอง’

“ลูกค้าอินเตอร์” ปักหมุด ‘ชลบุรี-ระยอง’ สร้างบ้านหรู 20-50 ล้านบาท รองรับเกษียณในไทย

 

ออกแบบ

ประเทศไทย หนึ่งในเป้าหมายหลัก (Destination) ที่ชาวต่างชาตินิยมและชื่นชอบที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว เนื่องจากมีทรัพยากรทางธรรมชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ มีเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทยที่เด่น และคนไทยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยือน ขณะเดียวกัน มีชาวต่างชาติได้มองหาและต้องการสร้างบ้านเพื่อรองรับในช่วง “วัยเกษียณ” ซึ่งจังหวัดชลบุรี และ ระยอง อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออก เป็นหนึ่งในหมุดหมายหลักที่เลือกจะมีบ้านไว้อยู่อาศัย

นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน360” ถึงภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านว่า ยังคงมีการเติบโตไปได้เรื่อยๆ ไม่ได้ตกอะไร แม้แต่บริษัทคู่แข่งยังมีออเดอร์ ซึ่งตลาดรับสร้างบ้านมียอดขายด้วยความต้องการของลูกค้า แม้จะไม่ได้รับผลจากมาตรการของรัฐที่มีอยู่ขณะนี้ ก่อนสิ้นสุดมาตรการภายในสิ้นปี 2565

ในส่วนของสำหรับตลาดรับสร้างบ้านในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งบริษัทพีดี เฮ้าส์ มีสาขาที่เปิดให้บริการอยู่ในจังหวัดชลบุรี (ครอบคลุมพัทยา) และจังหวัดระยอง (ครอบคลุมสัตหีบ จันทบุรี) พบว่า มียอดขายที่เติบโตเพิ่มขึ้นมาตลอด ติดอันดับท็อปทรีติดต่อมา 2 ปีแล้ว โดยเฉพาะระยะนี้มีลูกค้า “ชาวต่างชาติ” ที่มีฐานะมั่นคง (อินเตอร์) มีภรรยาเป็นคนไทย ต้องการมา เกษียณ อยู่ในประเทศไทย ได้ตัดสินใจเลือกและใช้บริการกับบริษัท พีดี เฮ้าส์ ในการปลูกสร้างบ้านหรูขนาดใหญ่ ระดับราคาค่อนข้างสูง เช่น บ้านหลังละ 20 และ 30 ล้านบาท จนไปถึงหลังละ 50 ล้านบาท เป็นต้น

“ชาวต่างชาติที่มาอยู่น่าจะศึกษาข้อมูลมาเป็นอย่างดี ประเทศไทยน่าอยู่ ซึ่งลูกค้าผม ไม่ได้มาทำธุรกิจ มาพักผ่อน มาอยู่เกษียณ ชอบทะเล คนไทยน่ารัก ซึ่งปัจจัยเรื่องของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC อาจจะมีส่วน โดยเฉพาะความสะดวกสบายเรื่องสนามบิน ลูกค้าอินเตอร์ (ชาวต่างชาติ)

ที่มาปลูกสร้างบ้านกับเราได้บอกต่อและชักชวนเพื่อนจากต่างประเทศมาปลูกสร้างบ้าน มีทั้งหลังละ 30 ล้านบาท และที่เซ็นสัญญาแล้ว มูลค่า 50 ล้านบาท เตรียมลงเสาเข็มต้นปี 2566 มีรายหนึ่ง เป็นเจ้าของธุรกิจอพาร์ตเมนต์ในต่างประเทศ เดิมรอให้ขายอพาร์ตเมนต์ให้ได้ก่อน แต่เปลี่ยนใจตัดสินใจ ไม่รอ รีบสร้างบ้านเลย โดยปรับลดขนาดของบ้านลงมาเหลือหลังละ 20 กว่าล้านบาท พร้อมไว้วางใจ “บริษัท เฌอ-วาด อาคิเทค จำกัด” บริษัทในเครือและเป็นทีมสถาปนิกที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางให้เป็นผู้เข้ามาดูแลรับผิดชอบงานออกแบบสถาปัตยกรรม ออกแบบตกแต่งภายใน และออกแบบงานภูมิทัศน์ให้แก่ลูกค้ารายนี้อีกประมาณ 10-20 ล้านบาท” นายสิทธิพร กล่าว