สวยทุกรูป! เมื่อครูให้เขียนจดหมายราชการ ครุฑแต่ละคนเลยเป็นแบบนี้

การเขียนจดหมายราชการนั้นถือว่าเป็นความรู้ขั้นพื้นฐานที่สำคัญ

ต่อชีวิตประจำวันเลยก็ว่าได้ เพราะว่าการติดต่อกับหน่วยงานราชการนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ได้ไกลตัวนั่นเอง

ผู้ใช้งาน TikTok บัญชี kruchotrawee ได้มีการแชร์คลิปสุดน่ารักที่คุณครูให้นักเรียนของตัวเองได้ลองฝึกเขียนจดหมายราชการด้วยตัวเอง ซึ่งผลงานของนักเรียนแต่ละคนนั้นออกมาได้ชวนอมยิ้มแบบสุดๆ

โดยคุณครูได้บรรยายคลิปว่า “การเขียนเอกสาร จดหมายคำสั่ง” ซึ่งจุดไฮไลท์ของการบ้านชิ้นนี้นั่นก็คือการที่ให้นักเรียนวาดตราครุฑด้วยตัวเอง ดังนั้นผลงานแต่ละชิ้นจึงออกมาได้น่ารักตะมุตะมิ ตามความคิดของเหล่านักเรียนแบบสุดๆ ในแบบที่ว่า จินตนาการสำคัญกว่าความเป็นจริงเลยก็ว่าได้

หลังจากที่คลิปของคุณครูได้ถูกแชร์ออกไป ก็เรียกว่ากลายเป็นคลิปไวรัล ที่มียอดผู้เข้าชมมากกว่า 170,000 ครั้ง และยังมีคอมเมนต์ที่เข้ามาขำและเอ็นดูไปกับจินตนาการของน้องๆ กันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “หิมพานต์ต้องสั่นสะเทือน”, “มันจะมีอยู่อันนึง” รวมไปถึง “บางคนวาดครุฑก็ไปครึ่งหน้ากระดาษแล้ว”

ข่าวอื่นๆ  ศธ.ยกเลิกระเบียบทรงผมนักเรียน ให้โรงเรียนกำหนดทรงผมสั้น-ยาวได้

ศธ.ยกเลิกระเบียบทรงผมนักเรียน ให้โรงเรียนกำหนดทรงผมสั้น-ยาวได้

ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ไฟเขียวออกระเบียบทรงผมนักเรียนใหม่ ให้อำนาจโรงเรียนกำหนดทรงผมไว้สั้น-ยาวได้ แต่ห้ามดัด ย้อมสี ไว้หนวดเครา

วันที่ 24 มกราคม 2566 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่มีเสียงเรียกร้องให้มีการแก้ไขปรับปรุงระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ. 2563 มาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญการลงโทษเรื่องทรงผมได้ส่งผลถึงร่างกายและจิตใจของนักเรียน ศธ.จึงได้มีหนังสือหารือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กรณีแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียน

ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 8) ได้ให้ความเห็นว่า รมว.ศธ.ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดอาจอาศัยอำนาจตามมาตรา 12 ประกอบกับมาตรา 39 (1) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 กำหนดเป็นนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดนำไปปฏิบัติได้

ดังนั้น เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ตนจึงได้ลงนามในระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการยกเลิกระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ. 2563 และเสนอสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วออกเป็นหนังสือสั่งการหรือหนังสือเวียน

การศึกษา

กำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนหรือนักศึกษาไว้อย่างกว้าง ๆ เพื่อให้หน่วยงานในสังกัดที่เป็นผู้กำกับดูแลสถานศึกษา กำหนดให้สถานศึกษาแต่ละแห่งนำหลักเกณฑ์ในเรื่องดังกล่าวไปกำหนดเป็นระเบียบหรือข้อบังคับของสถานศึกษาแต่ละแห่งเอง

นางสาวตรีนุช กล่าวต่อว่า ขณะนี้ ศธ.ได้ยกร่างแนวนโยบายเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนของสถานศึกษา ไว้ดังนี้

1.การไว้ทรงผมของนักเรียนของสถานศึกษาในสังกัด ศธ. และสถานศึกษาในกำกับดูแลของ ศธ. จะไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ โดยสถานศึกษาอาจกำหนดลักษณะทรงผมได้ตามพันธกิจ บริบท และความเหมาะสมของแต่ละสถานศึกษา

2.สถานศึกษาในสังกัด ศธ.และสถานศึกษาในกำกับดูแลของ ศธ.อาจดำเนินการกำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับไว้ทรงผมของนักเรียนได้ โดยการวางระเบียบหรือข้อบังคับของสถานศึกษา และควรระบุบทอาศัยอำนาจของกฎหมายเฉพาะมาตรา 39 (1) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546

จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตามหลักการมีส่วนร่วม เช่น นักเรียน คณะกรรมการสภานักเรียน คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง หรือ ผู้แทนผู้ปกครอง ชุมชนท้องถิ่น บุคคลหรือกลุ่มบุคคลอื่นใดที่หัวหน้าสถานศึกษาเห็นสมควร เป็นต้น

และเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา หรือ คณะกรรมการบริหารโรงเรียนแล้วแต่กรณี ก่อนการประกาศใช้ และควรเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ระเบียบหรือข้อบังคับเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนไว้ในระบบสารสนเทศ หรือบริเวณของสถานศึกษา

และดำเนินการแจ้งให้นักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดสถานศึกษาทราบเป็นการทั่วไป เพื่อให้การปฏิบัติตนของนักเรียนมีความถูกต้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเกิดความชัดเจนในการดำเนินการของสถานศึกษา

“ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มีข้อต้องปฏิบัติตนเกี่ยวกับการไว้ทรงผมว่า นักเรียนชายจะไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ กรณีไว้ผมยาวด้านข้าง ด้านหลังต้องยาว ไม่เลยตีนผม ด้านหน้าและกลางศีรษะให้เป็นไปตามความเหมาะสมและมีความเรียบร้อย นักเรียนหญิงจะไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้

กรณีไว้ผมยาวให้เป็นไปตามความเหมาะสมและรวบให้เรียบร้อย และมีข้อต้องห้ามปฏิบัติตน ดังนี้ ดัดผม ย้อมสีผมให้ผิดไปจากเดิม ไว้หนวดหรือเครา การกระทำอื่นใดซึ่งไม่เหมาะสมกับสภาพการเป็นนักเรียน เช่น การตัดแต่งทรงผมเป็นรูปทรงสัญลักษณ์หรือเป็นลวดลาย

แต่ต่อไปหลังจากมีการประกาศยกเลิกในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เรื่องการไว้ทรงผมของนักเรียนทั้งหมดจะอยู่ที่สถานศึกษา ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่ได้มาจากการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย” นางสาวตรีนุช กล่าว

ติดตามข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่ : ‘มณฑล’ ผุดไอเดียตั้งกองทุนกบข.ดูแลครูเอกชน ชงแก้กฎหมาย-เพิ่มสวัสดิการเกษียณ

‘มณฑล’ ผุดไอเดียตั้งกองทุนกบข.ดูแลครูเอกชน ชงแก้กฎหมาย-เพิ่มสวัสดิการเกษียณ

นายมณฑล ภาคสุวรรณ์  เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.)

เปิดเผยว่า ตามที่สถาบันอาชีวศึกษาเอกชนจำนวนหนึ่งมีข้อเรียกร้องขอย้ายกลับไปสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) หลังย้ายมาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 8/2559 นานกว่า 6 ปี  โดยให้เหตุผลว่า ได้รับการดูแลที่ไม่เท่าเทียมกับสถาบันอาชีวะรัฐ นั้น ช่วงที่ตน

 

 

อยู่ในตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ก็ได้รับมอบหมายให้ดูแลเรื่องนี้ ซึ่งตนได้ขอให้ทางอาชีวะเอกชน ช่วยกันคิด ว่าจะกำหนดรายละเอียดของอาชีวะเอกชน ไว้เป็นหมวดหนึ่งในร่าง พ.ร.บ.การอาชีวศึกษา พ.ศ. …  หรือ แยกพ.ร.บ.อาชีวะเอกชน พ.ศ…ออกมาต่างหากอีกฉบับหนึ่ง  ข้อสรุปที่ได้คือ ให้รวมอยู่กับร่างพ.ร.บ.การอาชีวศึกษาฯ  แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องสวัสดิการ ค่ารักษาพยาบาล เงินกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบ เงินกู้ยืมต่าง ๆ ที่ยังต้องมาใช้ระเบียบเดียวกับโรงเรียนในสังกัดสช. ซึ่งไม่สามารถตัดออกไปได้ เพราะถือว่าเป็นโรงเรียนเอกชนประเภทเดียวกัน ก็ควรจะได้รับสิทธิประโยชน์ที่เป็นธรรม

่ขาวอื่นๆ บิ๊กป้อม’ ย้ำทุกภาคส่วนร่วมมือแก้ปัญหายาเสพติด ‘ตรีนุช’ สั่งทุก ร.ร.สร้างความเข้าใจให้เด็กรู้โทษ

‘บิ๊กป้อม’ ย้ำทุกภาคส่วนร่วมมือแก้ปัญหายาเสพติด ‘ตรีนุช’ สั่งทุก ร.ร.สร้างความเข้าใจให้เด็กรู้โทษ

‘บิ๊กป้อม’ ย้ำทุกภาคส่วนร่วมมือแก้ปัญหายาเสพติด ‘ตรีนุช’ สั่งทุก ร.ร.สร้างความเข้าใจให้เด็กรู้โทษ

ตรีนุช

เมื่อวันที่ 13 กันยายน น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าที่ประชุมยังไม่ได้หารือเรื่องการปรับเพิ่มงบประมาณอาหารกลางวันของนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1-ประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งตนเสนอเรื่องดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) แล้ว ก็ขึ้นอยู่กับ สลค.จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่วาระการพิจารณาของ ครม.วันไหน แต่คาดว่าภายในเดือนกันยายนนี้น่าจะพิจารณาเรื่องดังกล่าวได้ทัน เรื่องดังกล่าวไม่ได้มีปัญหาติดขัดอะไร แต่อาจจะเป็นเพราะ ครม.มีวาระอื่นๆ ให้พิจารณาก่อน

น.ส.ตรีนุชกล่าวต่อว่า ส่วนการคัดเลือกผู้บริหารระดับ 10 ของ ศธ. ซึ่งมีผู้บริหารว่างอยู่ 3 ตำแหน่ง ได้แก่ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) 1 ตำแหน่ง รองเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) 1 ตำแหน่ง และผู้ตรวจราชการ ศธ. 1 ตำแหน่งนั้น  ตนอยู่ระหว่างพิจารณา ซึ่งจะพยายามเร่งเรื่องดังกล่าวให้เร็วที่สุด คาดว่าจะเสนอรายชื่อภายในเดือนกันยายนนี้ เพื่อให้ได้คนมาขับเคลื่อนงานต่อไปได้

“ที่ประชุมได้หารือถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนร่วมมือแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งในส่วนของ ศธ.​ดิฉันได้กำชับ เน้นย้ำเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอดว่าห้ามมีสารเสพติดทุกประเภทเข้าในสถานศึกษา พร้อมกับให้สถานศึกษาสร้างการรับรู้ถึงโทษภัยของยาเสพติดให้กับนักเรียน ชุมชน ผู้ปกครองด้วย” น.ส.ตรีนุชกล่าว sportsonline360